“มาดูงานที่นี่ยิ้มได้ทุกคน” 10 เหตุผล ทำไมคนจึงมาดูงานที่ “บ้านมายิ้ม” ชนิดหัวกระไดไม่แห้ง

หมายเหตุ-เกษตรก้าวไกล : ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย ได้เฟ้นหาเกษตรคนแกร่ง ที่ใช้ฟอร์ด เรนเจอร์ จำนวน 4 คน และ 1 ใน 4 ก็คือ “ประทีป มายิ้ม” เจ้าของสวนพออยู่พอกินบ้านมายิ้ม แห่ง จ.ชลบุรี ในฐานะปราชญ์เกษตรต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ผู้ใช้ที่ดินประมาณ 1 ไร่ แต่สามารถจัดสรรเพิ่มมูลค่าด้วยการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ สารพัดชนิด ทำให้มีรายได้ประมาณ 4 แสนบาทต่อปี (https://goo.gl/gS9Mo5) จนมีผู้สนใจมาศึกษาดูงานกันตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในรอบปี 2560 มีเกือบทุกวัน นับ 1,000 คน เพราะอะไร เหตุผลใด จึงต้องมาดูงานที่นี่ชนิดหัวกระไดไม่แห้ง…

เพื่อให้ได้คำตอบเรื่องนี้ “เกษตรก้าวไกล” และ “เกษตรโว้ย” จึงได้จัดทำรายงานพิเศษเรื่อง “จัดการพื้นที่ 1ไร่ อย่างไร? ให้มีรายได้ตลอดปี…10 คำถามมีคำตอบจาก ประทีป มายิ้ม” แต่ข้อมูลที่นำมาเสนอในตอนนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของฉบับเต็ม คัดมาเฉพาะเหตุผลที่ว่าทำไมคนจึงมาดูงานที่สวนแห่งนี้…ด้วยหวังว่าข้อมูลที่นำมาเสนอจะเป็นกรณีศึกษาและเป็นแนวทางให้กับผู้สนใจ และขอขอบคุณเจ้าของสวนมายิ้ม มา ณ โอกาสนี้

10 เหตุผลที่ทำให้ผู้คนไปดูงานบ้านมายิ้ม

1. ตรงกับช่วงเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ร.๙ เสด็จสู่สวรรคาลัย ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน พ่อค้า ประชาชน ทุกหมู่เหล่า จึงจำเป็นต้องไปศึกษาเรียนรู้ ดูงาน อบรม บังเอิญสวนพออยู่พอกินบ้านมายิ้ม ได้น้อมนำมาปฏิบัติ เป็นระยะเวลานานแล้วจึงพากันไปดูงาน

2. หลายๆหน่วยงานไปเที่ยวเมืองพัทยาโดยแอบอ้างว่าไปดูงาน แต่ไม่เอาชาวบ้านในท้องที่ไป(ชาวบ้านที่สนใจจริงๆ) คนที่ไปดูงานส่วนใหญ่ ล้วนเป็นญาติ สนิท หรือพรรคพวกพ้อง ของเหล่าผู้นำท้องถิ่น โดยใช้ภาษีของชาวบ้านไปเที่ยว แล้วแวะเข้าไปเพื่อสร้างภาพว่าไปดูงานที่สวนพออยู่พอกินบ้านมายิ้ม (กลุ่มเหล่านี้ไปเพื่อเผาผลาญภาษีของชาวบ้านแต่หาความสำราญใส่ตนเองและพวกพ้องเท่านั้นแต่ได้หน้าได้ภาพว่าไปดูงาน พูดง่ายๆคือไปเพื่อสร้างภาพ)

3. ประชาชนได้เห็นจากสื่อสารต่างๆเช่น กูเกิ้ล ยูทูป เพจ เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค หนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน ทีวี และสื่อดิจิทัลต่างๆที่กระตุ้นให้คนอยากไปเรียนรู้ดูงาน อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายตลอดเวลา (ขนาดประกาศหยุดปิดสวนคนก็ยังไปตลอด)

4. ต้องการไปดูเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า “จริงหรือ ทำได้ไง เป็นไปไม่ได้” จะจริงหรือที่สื่อชี้นำ จากยอดตัวเลขต่างๆ เช่น รายได้ ฯลฯ

5. จากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ถดถอยตกต่ำ ประชาชนจึงมุ่งหาทางเลือก ทางรอดใหม่ ในขณะนี้ จึงพากันไปศึกษาเรียนรู้ดูงาน เพื่อเป็นอีกแนวทางการปฏิบัติ เพื่อตนเองและครอบครัว

6. ความจริงใจ ความเต็มใจให้ข้อมูลอย่างถูกต้อง ตรงประเด็นของแต่ละคนที่ต้องการเรียนรู้ ไม่ปิดบังอำพราง ครบถ้วนรอบด้าน จากต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ การตลาดและอื่นๆจึงบอกต่อๆกันไปแบบปากต่อปาก แล้วชักชวนกันมาแบบขยายวงกว้างมากขึ้นไปเรื่อยไม่รู้จบ กระจายไปทั่วประเทศ ต่างชาติ ทุกทวีป

7. เพราะไม่เรียกเก็บเงินคนเข้าไปเรียนรู้ ได้พบกับตัวผมเองมากกว่า ๘๐% ส่วนที่ไปแล้วไม่พบผม ๑๕% จะนัดวันเวลาแล้วจะกลับไปใหม่ อีก ๕% ไม่กลับเข้าไปตามนัดแต่จะทยอยกันไปอีกจนครบ (ในกรณีที่ผมไม่อยู่ที่สวนฯ)

8. เพราะประชาชนไปเที่ยวเมืองพัทยาแล้ว สวนพออยู่พอกิน บ้านมายิ้ม อยู่ใกล้ๆแค่นั้นจึงแวะหรือเสียสละเวลาไปดูงาน นำความรู้ที่ได้รับกลับไปด้วย ดีกว่าไปเที่ยวเปล่าๆเพียงอย่างเดียว เผื่อว่าจะกลับไปทำที่บ้านบ้าง

9. ภาคอุตสาหกรรมในท้องที่ภาคตะวันออกเริ่มประสบปัญหาขาดทุน ลดต้นทุนการผลิต ปลดคนงานเพื่อลดภาระรายจ่ายของธุรกิจตนเอง จึงส่งพนักงานต่างๆไปศึกษาเรียนรู้ ดูงานที่สวนฯก่อนจะสั่งปลดพนักงานแรงงานด้อยคุณภาพออก และมีพนักงานที่เบื่อหน่ายงานประจำ พอจะมีทุนสะสมบ้าง ต้องการข้อมูลองค์ความรู้ ก่อนกลับภูมิลำเนา เข้าไปศึกษาเรียนรู้ที่สวนฯ (กลุ่มนี้จะไปเรียนรู้ประจำทุกวันหยุด หลายๆรายไปกินนอน ทำงานเพื่อต้องการความรู้อยู่ที่สวนนานเป็นเดือน ปี มีมากมายร่วมร้อยคน)

10. คนที่ประสบปัญหาทางธุรกิจล้มละลาย ใกล้เกษียณ เกษียณ ว่างงาน(ตกงาน) หางานทำไม่ได้ รอเรียกเข้าทำงาน กลุ่มเพื่อประกอบเป็นงานอดิเรกเสริมงาน เสริมเงิน เสริมอาชีพ เสริมรายได้ และอื่นๆ ฯลฯ

    

สรุปว่าใครที่มาดูงานที่บ้านมายิ้ม จะได้รับความรู้ ความจริงใจ ยิ้มกลับไปทุกคน “ผมคิดว่าทุกคนที่มาดูงานจะได้แนวทางได้ความรู้กลับไป ส่วนจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่แต่ละคนว่าจะจริงจังและทำจริงหรือไม่” คุณประทีป มายิ้ม กล่าวในที่สุด