
หมายเหตุ – เกษตรโว้ย(VOICE)…หลังจากที่ได้นำเสนอข่าว “สภาเกษตรกรฯ หนุนปลูกพืชกัญชานำร่อง 5,000 ไร่-ที่เทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร” https://www.kasetvoice.com/post/3604?preview_id=3604 ก็มีเสียงทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งในเรื่องนี้นั้นสภาเกษตรกรแห่งชาติ ที่มีนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ เป็นประธาน ได้ออกมาให้ข่าว พร้อมกับจัดทำคลิป ชี้แจงเหตุผลที่มาที่ไป เพราะอะไรจึงคิดหนุนปลูกพืชกัญชา https://www.youtube.com/watch?v=Zssg71kkSog&t=4s ทั้งนี้ เพื่อนำมาสกัดเป็นยารักษาโรค และปลูกอย่างถูกต้องเหมาะสม (รายละเอียดขอให้ดูจากคลิป)
สำหรับเสียงที่ไม่เห็นด้วย “เกษตรโว้ย(VOICE)” ถือว่าทุกคนเป็นผู้มีส่วนได้เสีย จึงขอนำมาเผยแพร่เพื่อให้เกิดความหลากหลาย ดังนี้…
โครงการ “ปลูกกัญชานำร่อง (อย่างถูกกฎหมาย) ที่สกลนคร” ในฐานะที่ผมเกิดและโตที่สกลนคร ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ เพราะ…
1. กัญชาเป็นสิ่งเสพติดโดยสภาพ
2. หากปลูกจำนวนมาก ก็ต้องใช้คนงานจำนวนมากไปด้วย จึงยากแก่การควบคุมไม่ให้กัญชารั่วไหลออกสู่ภายนอกโครงการได้
3. เมื่อกัญชาตามโครงการที่อ้างว่าใช้ทำยาขาดตลาด ก็จะมีบุคคลบางกลุ่มนำกัญชาเข้ามาทดแทนด้วยวิธีการต่างๆ
4. การใช้พื้นที่สกลนครเป็นที่ปลูกกัญชา ไม่ทำให้ความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของชาวสกลนครดีขึ้นแต่อย่างใด
5. คนงานที่ปลูกกัญชา ต้องสัมผัสกับต้น ใบ ดอก ผลกัญชา ตลอดเวลา ทำให้ได้รับกลิ่นและสารความเมาของกัญชาเข้าสู่ร่างกาย ทำให้กลายเป็นคนเสพกัญชาทางอ้อม
6. เกรงว่าจะมีการแอบสูบกัญชาในไร่กัญชาได้ หรือหากเกิดกรณีมีการเผาไหม้เศษหรือต้นกัญชา จะทำให้กลิ่นกัญชาโชยมาแต่ไกลไปทั่วถิ่น นับว่าเป็นอันตรายอย่างรุนแรงแก่ประชาชนโดยกว้าง
7. สมัยก่อนมีการปลูกฝิ่น แถบที่สูงของประเทศไทย ต่อมาก็รณรงค์ให้ตัด ให้ปราบ และให้เลิกปลูกฝิ่น แล้วสร้างโครงการดีๆ ให้ชาวเขาได้หันมาปลูกพืชผักทดแทน ซึ่งได้ผลมาแล้วจนถึงปัจจุบัน ความเป็นอยู่ของชาวเขาเหล่านั้นก็ดีขึ้น
8. การอนุญาตให้ปลูกหรือผลิตยาเสพติดเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับการอนุญาตให้เปิดบ่อนคาสิโน บ่อนโสเภณี หรือทำปืนเถื่อน
9. หรือถ้าจะปลูกกัญชาจริง ๆ ให้ไปปลูกที่บ้านเกิดของประธานสภาเกษตรฯ ก็จะไม่คัดค้าน
10. ถ้าปลูกที่สกลนคร คนสกลนครไปทำงานทั่วโลก ทั่วประเทศ เวลาคนถามว่ามาจากไหน เมื่อตอบว่ามาจากสกลนคร ก็จะถูกตราหน้าอีกว่า มาจากดินแดนปลูกกัญชา ซึ่งเป็นเรื่องอับอายขายหน้า อัปยศอดสูทั้งสิ้น
11. สรุป ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ซึ่งมีผลเสียมากกว่าได้ อย่าทำให้เทือกเขาภูพานต้องมัวหมองเลย เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่… และที่สำคัญคุณถามใจชาวสกลนครแล้วหรือยัง ขอให้หยุดโครงการนี้เสีย
12. หากยังเดินหน้าโครงการนี้อยู่ ผมจะใช้ช่องทางทางกฎหมายเท่าที่มีอยู่ดำเนินการคัดค้านต่อไป

นอกจากเหตุผล 12 ประการนั้นแล้ว เรื่องต่อมาคือ ภาพลักษณ์อันไม่พึงประสงค์ กล่าวคือ การถูกล้อเลียนในทางเสื่อมเสีย เพราะตั้งแต่ผมเข้ามากรุงเทพฯตั้งแต่อายุ 17 – 18 ปี ก็ถูกล้อว่าอยู่สกลฯกินหมาหรือเปล่า ผมต้องคอยตอบและคอยเถียงกับผู้คนตลอดมา จนปัจจุบันมี พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ เหตุการณ์ก็บรรเทาเบาบางและจะเลือนหายไป หรือหากมาใครมาพูดหมิ่นประมาทอีกผมก็ได้ห้องคดีอาญาแล้ว ตอนนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์
มาเรื่องกัญชา ผมไม่อยากให้โครงการนี้ไปปลูกกัญชาที่บ้านเกิดผม เพราะจะถูกล้อเลียนอีกแล้วว่ามาจากดินแดนกัญชา ซึ่งไม่ใช่สิ่งดีงามใด ๆ เลย
ประกอบกับลูกหลานผมพี่น้องญาติผมมีจำนวนมากอยู่ที่สกลนคร และผมกลับมาว่าความบ่อยๆและอาจกลับมาอยู่ที่สกลนครในวันข้างหน้า ผมไปว่าความทั่วประเทศ ใคร ๆ ก็ถามผมว่าอยู่จังหวัดไหน เมื่อผมตอบว่าเป็นคนสกลนคร เขาก็ล้อเลียนผมและมองผมแบบเสีย ๆ หาย เหยียดหยาม ดูตกต่ำลงทันที ทั้ง ๆ ที่ผมอยู่ในกรอบกฎหมายบ้านเมือง เป็นนักกฎหมาย มันทรมานจิตใจผมมาก
สิ่งดี ๆ ที่สกลนครมีมากมาย เช่น เนื้อโคขุนโพนยางคำ ศูนย์ศิลปาชีพกุดนาขาม พระธาตุเชิงชุม วัดดอยธรรมเจดีย์ พระอาจารย์แบน หลวงปู่มั่น หลวงปู่ฝั้น วัดถ้ำผาแด่น พญาเต่างอย หนองหาร หลวงพ่อองค์แสน ผ้าย้อมคราม พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ โค้งปิ้งงูสวยงาม หมูยออร่อยที่สุดในประเทศไทย มีก้อง ห้วยไร่ และยังมีผม ทนายความที่ไม่นิ่งดาย รักบ้านเกิดครับ
ด้วยความห่วงใยบ้านเกิดเมืองนอน จากทนายความว่าที่ร้อยตรีนิพนธ์ ฮังโยธา

